รีวิว AWeber 2025 – เพชรในตมสำหรับนักการตลาดทางอีเมล?

AWeber ยังเป็นตัวท็อปๆอยู่ไหม?

AWeber เป็นชื่อที่ฟังแล้วจำได้ง่ายอย่างแน่นอน ซึ่งทางแพลตฟอร์มได้เริ่มต้นมีมาไม่นานก่อนเกิดปัญหาปี 2000 บางครั้งเรียกว่า ปัญหาวายทูเค (Y2K problem) เป็นปัญหาที่เกิดกับระบบเอกสารและการบันทึกข้อมูล ทั้งในแบบดิจิตอล (เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์) และระบบอนาล็อก ทาง AWeber (และเจ้าอื่นๆที่เหลือ) ผ่านปัญหาอันใหญ่หลวงนั้นมาได้ และได้เติบโตขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิม

แน่นอนว่ามันมีการพัฒนาไปตามกาลเวลา แพลตฟอร์ม AWeber ยังคงให้บริการการทำการตลาดผ่านอีเมลแบบคลาสสิกซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี แต่ดีกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มมาอื่นๆเพิ่มเติม เช่น หน้า Landing Page การจัดการบัญชีลูกค้า และความเข้ากันได้กับ AMP สำหรับอีเมลของ Google ดูเหมือนว่า – อย่างน้อยจากมุมมองภายนอก – ทางบริการให้ทุกสิ่งที่คุณคาดหวังจากแพลตฟอร์มการทำการตลาดผ่านอีเมล

แต่ทางบริการพัฒนาตามเวลาที่หมุนอยู่เรื่อยๆอยู่นั้นได้ทันจริงๆหรอ? แล้วระบบอีเมลอัตโนมัติที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้แบบใหม่ทั้งหมดนี้ล่ะ? ความปลอดภัยเป็นอย่างไร และ AWeber ป้องกันอีเมลสแปมออกจากแพลตฟอร์มได้ดีแค่ไหน?

ผมแอบไปลองใช้แพลตฟอร์มนี้ดูและผมก็ค่อนข้างชอบมันมากเลย อ่านต่อไปเพื่อดูว่าบริการนี้อาจเป็นแพลตฟอร์มการทำการตลาดผ่านอีเมลที่เหมาะกับคุณหรือเปล่า

ฟีเจอร์ของ AWeber ทำได้จริงอย่างที่บอกไว้

บริการ AWeber ทำเกี่ยวกับอีเมลเป็นเจ้าแรก และก่อนใคร แม้ว่าบางครั้งบริการเจ้าอื่นๆ จะเพิ่มการทำงานต่างๆเข้ามามากมาย ให้กับแพลตฟอร์มของตนเอง (เช่น แคมเปญการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียแบบเต็มรูปแบบ และอื่นๆอีกมากมาย) แต่ AWeber ก็ยังคงมุ่งเน้นการใช้อีเมลเป็นหลักอยู่ดี และแลนดิ้งเพจ แต่ส่วนใหญ่นั้นอีเมลเป็นหลัก

ที่กล่าวไปนั้นไม่ใช่คำวิจารณ์แต่อย่างใด ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว และผมจะบอกอีกครั้ง: โดยทั่วไปแล้วผมชอบแอปพลิเคชันและบริการที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเดียวได้ดีมากๆ และส่วนใหญ่ก็มุ่งมั่นกับสิ่งนั้น เนื่องจากฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับอีเมลและหน้า Landing Page เป็นสิ่งเดียวที่มีความสำคัญสำหรับวัตถุประสงค์ของการรีวิวนี้ AWeber จึงอยู่ในสถานะที่ดีมากๆ ที่จะสร้างความประทับใจให้กับพวกเราทุกคน

และทางบริการได้สร้างความประทับใจให้ผมด้วยเช่นกัน (เป็นส่วนใหญ่ครับ)

แคมเปญอีเมล, เทมเพลต และการปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

การทำการตลาดผ่านอีเมลของ AWeber นั้นง่ายมาก (และฟรี) ในการเริ่มต้นใช้งาน แค่ สมัครลงทะเบียนแผนใช้งานฟรี ซึ่งช่วยให้คุณส่งอีเมลได้มากเท่าที่คุณต้องการ มากถึง 500 รายที่เป็นสมาชิกติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ติดต่อ ไม่มีการจำกัดเวลาในการใช้แผนฟรี เพียงแค่ส่งอีเมลของคุณแล้วใช้งานได้เลย

แผนบริการแบบชำระเงินสามารถมีสมาชิกติดตามข้อมูลข่าวสารได้มากถึง 25,000 ราย และหากคุณต้องการมากกว่านั้น คุณอาจต้องพูดคุยกับฝ่ายขาย/ฝ่ายช่วยเหลือ

แน่นอนว่าคุณสามารถเพิ่มการเข้าถึงอีเมลได้อย่างมากโดยการแชร์ผ่าน Facebook และ Twitter ไปพร้อมๆ กับที่คุณส่งอีเมลออกไป อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถส่งการแจ้งเตือนทาง SMS ได้ เว้นแต่คุณจะใช้การผสานการทำงานกับบริการบุคคลที่สามอื่นๆ สำหรับบริการการส่ง SMS นั้นเป็นบริการที่แยกต่างหาก และนั่นอาจทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน

อีเมลเองก็สร้างได้ง่ายเช่นกัน หรือบางคนอาจจะถือว่าสร้างยากก็ได้ อันนี้แล้วแต่บุคคลเลย คุณสามารถสร้างอีเมลในเครื่องมือที่ใช้งานได้อย่างง่ายในการแก้ไขแบบลากแล้ววาง สามารถเขียนอีเมลที่เป็นแบบข้อความเท่านั้น (นี่เป็นความเชี่ยวชาญส่วนตัวของผมเอง) หรือใช้เทมเพลต HTML แบบกำหนดเอง ซึ่งตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่สนุกเสมอ

ตัวแก้ไขแบบลากแล้ววางมีเทมเพลตมากกว่า 700 แบบ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ได้ดีเลยทีเดียว เทมเพลตบางอันอาจจะดูล้าสมัยไปแล้ว ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าแพลตฟอร์มเป็นของยุคแรกในการทำการตลาดผ่านอีเมล อารมณ์เหมือนเสือเขี้ยวดาบและแมมมอธท่องเว็บที่มักจะมาอยู่ในรูปแบบ GIF

แต่ถึงแม้เทมเพลตเก่าๆเหล่านี้จะสังเกตเห็นได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่เทมเพลตส่วนใหญ่ที่ทางบริการมี ลองดูที่นี่ ส่วนใหญ่เทมเพลตก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว:

เครื่องมือที่ใช้แก้ไขจริงๆนั้นเรียนรู้ได้ง่ายมาก และค่อนข้างยืดหยุ่นพอตัว ทั้งฟีเจอร์และโครงร่างเลย์เอาต์ที่ดี คุณสามารถเพิ่มบล็อกข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ปุ่ม ลิงก์โซเชียลมีเดีย ปุ่มแชร์บนโซเชียลมีเดีย โลโก้ คูปอง ภาพหมุน และแม้แต่ฟีด RSS ได้อย่างง่ายดาย เปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ แต่น่าเสียดายที่ ตัวเลือกสำหรับการเลือกฟอนต์ที่มีให้ใช้นั้นน้อยไปหน่อย

นอกจากนี้ยังมีคลังภาพสต็อกที่มีรูปภาพมากกว่า 6,500 ภาพ บริการส่วนใหญ่ที่ผมได้ทำการรีวิวเป็นการส่วนตัวไม่มีสิ่งนี้ให้ นี่จึงถือเป็นโบนัสก้อนโต

สุดท้ายนี้ มีการรองรับภาษาที่อ่านจากขวาไปซ้าย เช่น ฮิบรูและอาหรับ จากคำที่พนักงานฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าที่ผมคุยด้วยบอกมา ว่าคุณสามารถใช้ภาษาใดก็ได้ที่คุณต้องการ ตราบใดที่คุณมีแป้นพิมพ์สำหรับมัน สิ่งนี้ทำให้ AWeber เป็นตัวเลือกที่สุดยอดสำหรับลูกค้าต่างประเทศ

ต่อมา ในการปรับเปลี่ยนอีเมลในแบบฉบับของคุณ: เป็นส่วนที่คุณสามารถใช้ตัวแปรต่างๆเพื่อแก้ไขเนื้อหาในอีเมลของคุณ ขึ้นอยู่กับว่าคุณส่งอีเมลนั้นไปให้ใคร นั่นคือวิธีที่บริษัทต่างๆ เริ่มต้นอีเมลทุกฉบับด้วยชื่อของคุณ (หรือชื่อที่ใกล้เคียงที่สุด) โดยไม่ต้องคอยใช้งานเด็กฝึกงานที่น่าสงสารให้คอยพิมส่งอีเมลหลายพันฉบับด้วยตนเอง

ในบริการ AWeber คุณสามารถใช้ตัวแปรต่างๆเพื่อแสดง ชื่อผู้ติดต่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ IP URL หรือวันที่สมัคร ตำแหน่งที่อยู่ของผู้ติดต่อ (ภูมิภาค เมือง รหัสไปรษณีย์ หรือแม้แต่ละติจูดและลองจิจูด) คุณยังสามารถใช้ตัวแปรต่างๆเพื่อป้อนข้อมูลโค้ด เช่น ลายเซ็น ที่อยู่จริง วันที่ และลิงก์ยกเลิกสมัครติดตามรับข้อมูลข่าวสารที่มีความสำคัญตลอดกาล

นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาแบบปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา นั่นหมายความว่า จริงๆแล้วคุณสามารถทำให้เนื้อหาในอีเมลบางส่วนปรากฏขึ้นมาหรือหายไปได้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่คุณมีเกี่ยวกับผู้ติดต่อของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังส่งอีเมลที่เต็มไปด้วยดีลโปรโมชั่นของหลายๆประเทศ แต่คุณมีดีลโปรโมชั่นพิเศษของประเทศเวียดนาม คุณสามารถสร้างบล็อกเนื้อหาที่เต็มไปด้วยดีลโปรโมชั่นที่จะไม่แสดงให้ใครเห็นนอกจากลูกค้าชาวเวียดนามของคุณเท่านั้น

คุณสามารถทำให้เนื้อหาปรากฏ (อีกครั้งหรือทำให้หายไปอีกครั้ง) ตามชื่อผู้ติดต่อ หรือแท็กข้อมูลใดๆ ที่คุณกำหนด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขา อีเมล ที่อยู่ IP และตัวเลือกอื่น ๆ อีกมากมาย

สุดท้ายสำหรับส่วนนี้ มาดูการทดสอบ A/B หรือที่เรียกว่าการทดสอบแยกกลุ่มกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างอีเมลได้มากกว่าหนึ่งเวอร์ชั่น และส่งอีเมลสองเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันไปยังลูกค้าในรายชื่อผู้ติดต่อของคุณแบบสุ่ม

ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดร้านหนังสือ คุณสามารถสร้างอีเมลฉบับหนึ่งที่โฆษณาล่าสุดเกี่ยวกับนวนิยายอาชญากรรมและการเมืองระทึกขวัญ และอีเมลอีกฉบับที่เกี่ยวกับกวีนิพนธ์ล่าสุด จากนั้น คุณสามารถนำสถิติจากทั้งสองแคมเปญอีเมลมาใช้ เพื่อดูว่าผู้อ่านของคุณนั้น ต้องการนิยายอาชญากรรมของ John Grisham มากกว่าหรือผู้อ่านต้องการอีเมลเกี่ยวกับบทกวีมากกว่ากัน

ถ้าให้เดาเลยก็คือ คนส่วนมากชอบนวนิยายมากกว่าบทกวีแน่นอน เป็นผม ผมก็เลือกนิยายเกี่ยวกับอาชญากรรมมากกว่า

AWeber มีการทดสอบ A/B ซึ่งใช้งานได้ดี และคุณสามารถแยกกลุ่มการทดสอบได้ทุกอย่าง รวมทั้งหัวเรื่อง การออกแบบดีไซน์อีเมล… ทุกๆอย่าง แพลตฟอร์มการทำการตลาดผ่านอีเมลบางแพลตฟอร์มจะให้คุณแยกกลุ่มทดสอบได้เฉพาะบางอย่าง เช่น หัวเรื่องอีเมล ดังนั้นการมีโซลูชั่นที่สมบูรณ์ทำให้ผมแฮปปี้มาก

รายชื่อผู้รับอีเมล และการแบ่งกลุ่มผู้ติดต่อ

การจัดการผู้ติดต่อของคุณนั้นง่ายมาก ง่ายเป็นส่วนใหญ่ คุณสามารถเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อได้ด้วยตนเองโดยพิมพ์ข้อมูลทีละรายการ คัดลอกและวางหลายๆที่อยู่จำนวนมากได้ หรือนำเข้ารายชื่อผู้ติดต่อจากไฟล์ต่างๆ ซึ่งรูปแบบไฟล์ที่รองรับ ได้แก่ XLS(X), TSV, CSV และไฟล์ TXT ที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค

คุณยังสามารถสร้างแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อฝังฟอร์มนั้นในเว็บไซต์ของคุณ และยังสามารถใช้การรวม WordPress หรือสร้างหน้า Landing Page ด้วยแบบฟอร์มลงทะเบียนบน AWeber ได้เลยอย่างง่ายดาย

เมื่อพูดถึงการจัดเรียงรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ มีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่คุณต้องรู้เลยก็คือ: คุณจะไม่ได้รับ “ลิสรายชื่อ” ที่แยกจากกัน เว้นแต่ว่าคุณจะใช้ฟีเจอร์การแบ่งกลุ่มผู้ติดต่อเข้ามาช่วย

ไม่อย่างนั้น ผู้ติดต่อทั้งหมดจะรวมอยู่ในรายการใหญ่เพียงรายการเดียว ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบคลิกปุ่ม “เพิ่มรายการใหม่” เพราะ อย่างไรก็ตามรายการใหญ่ๆหนึ่งรายการนั้นสามารถแบ่งย่อยด้วยแท็กต่างๆ แบบสไตล์โพสต์บล็อก และนั่นก็จำลองการทำงานของรายการที่แยกจากกัน คุณยังสามารถกำหนดแท็กหลายๆแท็กให้กับรายชื่อผู้ติดต่อของคุณได้ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการจัดระเบียบได้ตามที่คุณต้องการ

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นปัญหาเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด แต่อาจต้องใช้ความคุ้นเคยซักหน่อย หากคุณใช้แพลตฟอร์มการทำการตลาดผ่านอีเมลเจ้าอื่นมาก่อนหน้านี้ ที่ใช้วิธีการจัดระเบียบรายชื่อผู้ติดต่อแบบเดิมๆ

นอกจากการใช้แท็กต่างๆแล้ว คุณยังสามารถจัดเรียงรายชื่อผู้ติดต่อตามชื่อ ที่อยู่ IP อื่นๆทั่วไปได้ คุณยังสามารถค้นหาผู้ติดต่อได้จากสถานที่อยู่ วันที่สมัคร หรือสถานที่ที่พวกเขาลงชื่อสมัครใช้งาน ลิงก์ที่พวกเขาคลิก รวมถึงหน้าเว็บที่พวกเขาเคยเยี่ยมชม (หน้าเว็บเหล่านี้ที่หมายถึงต้องเป็นหน้าเว็บที่คุณควบคุม)

มาต่อในหัวข้อการแบ่งกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อ ซึ่งการแบ่งกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อเป็นวิธีสร้างรายชื่อผู้ติดต่อที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาโดยทำการอัปเดตตัวเองเสมอเมื่อมีการเพิ่มผู้ติดต่อใหม่ที่ตรงตามเกณฑ์ ตัวอย่างเช่น คุณต้องการรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดของคุณที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ที่ได้คลิกลิงก์ในอีเมลของคุณในปีที่ผ่านมา

บนแพลตฟอร์มของ AWeber คุณสามารถใช้แบบฟอร์มการค้นหาขั้นสูงเพื่อค้นหาผู้ติดต่อที่เข้าเกณฑ์เหล่านั้น แล้วบันทึกผลการค้นหาของคุณเป็นกลุ่ม รายชื่อส่วนนั้นจะได้รับการอัปเดตทุกครั้งที่มีคนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามที่เข้าตามเกณฑ์ที่กำหนด (หรือไม่ตรงตามเกณฑ์)

อย่างไรก็ตาม การใช้งานเหล่านี้ไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมดใน แผนใช้งานฟรี มีฟีเจอร์การค้นหาขั้นสูง แต่คุณจะต้องอัปเกรดเป็นแผนราคาโปรก่อนเพื่อที่จะบันทึกกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อของคุณเองได้

ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อ คุณจะต้องมีตัวเลือกสำหรับการทำความสะอาดลิสรายชื่อผู้ติดต่อ พูดง่ายๆ ก็คือ คุณมีจำนวนรายชื่อผู้ติดต่อที่ใช้ได้จำกัด และคุณไม่ต้องการที่จะส่งอีเมลถึงคนที่ไม่ได้เปิดดูอีเมลเหล่านั้นด้วยซ้ำ หรือบางทีคุณอาจส่งไปก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณมีข้อเสนอที่จะทำให้พวกเขาเปิดอ่านอีเมล

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นการค้นหาขั้นสูงเพื่อค้นหาผู้ติดต่อที่ไม่ได้เปิดอีเมลหรือไม่ได้คลิกลิงก์มาระยะหนึ่งแล้ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณระบุผู้ติดต่อที่จำเป็นต้องถูกย้ายออกไป หรือไม่ก็ย้ายไปในกลุ่มล้มเหลว หรือถูกลบออกจากรายการของคุณทั้งหมด

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คุณยังต้องการวิธีที่จะระงับผู้ติดต่อบางราย ซึ่งหมายความว่า อย่าส่งอีเมลถึงพวกเขาอีกอย่างเด็ดขาด แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ปกติแล้วรายการระงับจะใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ติดต่อที่ไม่ได้สมัครรับข้อมูลข่าวสารจะยังคงอยู่ในกลุ่มไม่สมัครรับข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นพวกเขาจะได้ไม่บ่นและทำให้แคมเปญการตลาดของคุณถูกติดป้ายว่าเป็นอีเมลสแปม แถมยังเป็นเรื่องของกฎหมายในบางที่อีกด้วย

หมายความว่า AWeber มีสิ่งนี้ให้ คุณสามารถระงับผู้ติดต่อใดก็ได้ตลอดเวลา และทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากแคมเปญการตลาดทางอีเมลของคุณอีก

การทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดของผมเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้ที่ติ ผมไม่เคยแม้แต่เจออะไรที่ผมอาจเรียกมันว่าบั๊ก ได้เลย ผมขอแนะนำ AWeber สำหรับคนที่เพิ่งเรียนรู้ว่าการทำการตลาดผ่านอีเมลนั้นมันทำงานอย่างไร

แลนดิ้งเพจ

การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่เยี่ยมเลย และผมขอแนะนำให้ทุกคนสร้างภาพลักษณ์ทางเว็บไซต์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของตน อย่างไรก็ตาม บางครั้งคุณเพียงแค่ต้องการวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายในการประกาศกิจกรรมใหม่ๆ หรือทำการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะบางอย่าง หรือเพียงแค่ให้ผู้คนลงทะเบียนเพื่อรับอีเมลของคุณ และบางทีคุณอาจไม่ต้องการใส่หน้านั้นบนเว็บไซต์จริงๆของคุณ

หน้า Landing Page เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ และ AWeber ช่วยให้คุณสร้างหน้าเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และคุณสามารถสร้างกี่หน้าก็ได้เท่าที่คุณต้องการ

มีเทมเพลตหน้า Landing Page มากกว่า 40 แบบ ซึ่งใหม่กว่าเดิม ทันสมัย และดูดีอย่างแน่นอน ต่างจากเทมเพลตอีเมล ผมไม่เจอซักอันเลยที่รู้สึกว่าล้าสมัย อย่างที่คุณพอจะเดาได้ว่าเทมเพลตเหล่านี้ยังตอบสนองต่อมือถือได้ดีอีกด้วย ลองดูได้ด้วยตัวคุณเอง:

ตัวแก้ไขหน้า Landing Page มีลักษณะและทำงานได้เกือบเหมือนกับเครื่องมือแก้ไขอีเมลแบบลากและวาง เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วเครื่องมือแก้ไขสองอย่างนั้นเป็นซอฟต์แวร์เดียวกัน เพียงกำหนดค่าใหม่เพื่อสร้างหน้า Landing Page และสำหรับผม ผมว่าใช้งานได้ดีพอตัวเลย

และเช่นเดียวกับเครื่องมือแก้ไขอีเมล มีการสนับสนุนการใช้ภาษา RTL อีกทั้งคุณยังสามารถใช้โดเมนที่กำหนดเองกับหน้า Landing Page ได้อีกด้วย คุณสามารถทำให้หน้าแลนดิ้งเพจ (สำหรับผู้ใช้งาน) เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ของคุณเองได้

ระบบทำงานอัตโนมัติ

ระบบทำงานอัตโนมัติเป็นศิลปะในการตั้งค่าอีเมลและแคมเปญของคุณ ดังนั้นคุณแทบจะปล่อยมันทิ้งไว้เฉยๆโดยไม่ต้องทำไรเลย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าเพื่อให้ผู้ติดต่อใหม่ได้รับอีเมล “สวัสดี!” เมื่อพวกเขาสมัครลงทะเบียนรับจดหมายข่าวของคุณ

หรือหากผู้ใช้คลิกลิงก์ในอีเมลสำหรับดีลโปรโมชั่น ดีลใดดีลหนึ่ง แท็กจะถูกเพิ่มลงในข้อมูลติดต่อของพวกเขาบน AWeber ทันที จากนั้นคุณสามารถตั้งค่าให้ระบบรอประมาณหนึ่งสัปดาห์ แล้วจึงค่อยส่งอีเมลอีกฉบับพร้อมดีลโปรโมชั่นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายๆกัน

ระบบทำงานอัตโนมัติของ AWeber เรียกว่าแคมเปญ ใน แผนใช้งานฟรี คุณสามารถเรียกใช้แคมเปญอีเมลเมื่อมีคนสมัครรับจดหมายข่าว หรือเมื่อมีการเพิ่มแท็กลงในข้อมูลติดต่อของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกขั้นสูงเพิ่มเติม เช่น อีเมลอัตโนมัติสำหรับรถเข็นที่ถูกละทิ้ง บริการอัตโนมัติเพิ่มเติมเหล่านี้อยู่ในแผนราคา Pro

ฟีเจอร์อื่นๆเพิ่มเติม

AWeber มีฟีเจอร์อื่นๆเพิ่มเติมหลายอย่างที่สามารถทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นหน่อย ซึ่งฟีเจอร์ที่ว่านี้รวมถึง:

นักออกแบบอัจฉริยะ – นี่เป็นเครื่องมือที่จะออกแบบเทมเพลตอีเมลสำหรับคุณตามการออกแบบดีไซน์ของเว็บไซต์คุณ เทมเพลตเหล่านี้อาจไม่ได้แฟนซีมากนัก แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมต่อได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผมใช้ฟีเจอร์นี้สำหรับเว็บไซต์ของตัวเองผ่านเครื่องมือนักออกแบบอัจฉริยะ:

ศูนย์กลางทีมงาน– หากคุณมีทีมสำหรับทำการตลาดที่มีลูกค้าหลายราย เครื่องมือศูนย์กลางทีมงานของ AWeber เหมาะสำหรับคุณ เครื่องมือจะช่วยเรื่องทั่วๆไป ที่ให้คุณสามารถจัดการลูกค้าและสมาชิกในทีมของคุณด้วยวิธีทั่วไป คุณสามารถมอบหมายบุคคลที่เฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าบางราย ให้จัดการข้อมูลลูกค้า และจัดการเรื่องอื่นๆ

AMP สำหรับอีเมล – AMP สำหรับอีเมลของ Google นั้นเป็นเฟรมเวิร์กที่เพิ่มระดับการโต้ตอบให้กับอีเมลที่ปกติแล้วคุณจะไม่มีการโต้ตอบขนาดนี้ เรากำลังพูดถึงรูปแบบขั้นสูง รวมถึงเมนูดรอปดาวน์ และหนึ่งในส่วนเพิ่มเติมล่าสุดของ AWeber คือ: ภาพสไลด์หลายๆรูป ใช่แล้ว เราสามารถใส่รูปภาพสไลด์พวกนี้ได้ในอีเมล

เปลี่ยนบล็อกของคุณให้เป็นจดหมายข่าว – มีวิธีง่ายๆ ในการนำเข้าโพสต์ในบล็อกและส่งออกไปเป็นจดหมายข่าว อะไรประมาณนั้น

การผสานรวมและส่วนเสริมของบุคคลที่สาม – แบบเฉพาะเจาะจงเลยก็คือ มีมากกว่า 1,000 รายการ ส่วนเสริมเหล่านี้ให้ความสามารถในการทำให้ AWeber ทำงานร่วมกับ Shopify, Facebook, WordPress, PayPal, Zapier, Etsy และแม้แต่ปลั๊กอินใน WordPress เช่น Divi และ WooCommerce ซึ่งการผสานรวมจำนวนมากให้ทำงานผ่าน Zapier เป็นวิธีที่ทำให้เราได้รับส่วนเสริมเพิ่มเติมมากกว่าหนึ่งพันรายการ

ส่วนใหญ่แล้ว อีเมลของคุณผ่านไปกล่องขาเข้าได้

Deliverability หรือความสามารถในการส่งอีเมลไปยังผู้รับเป็นคำที่เราใช้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มที่อีเมลของคุณจะไปถึงกล่องจดหมายผู้ติดต่อของคุณ ซึ่งสิ่งนี้นั้นเป็นประเด็นหลักเลย อีเมลที่ใครๆมองไม่เห็นนั้นไร้ประโยชน์และทำให้คุณเสียเวลา

ตอนนี้บางคนและบางเว็บไซต์ที่ทดสอบความสามารถในการส่งอีเมลให้ถึงผู้รับนี้จะพยายามตีค่าเป็นตัวเลขเช่น “อีเมลของคุณจากบริการ X จะมีอัตราการส่งอีเมลให้ถึงผู้รับอยู่ที่ 65%” ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นไม่มีประโยชน์เลย เนื่องจากเราไม่สามารถทดสอบปัจจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการส่งอีเมลให้ถึงผู้รับได้ เพราะมันมีตัวแปรมากเกินไป และระบบที่เกี่ยวข้องมากเกินไปที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด

สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการดูคุณสมบัติฟีเจอร์พื้นฐานต่างๆในทุกบริการที่จำเป็นในการให้อีเมลผ่านไปยังผู้รับได้ และให้คะแนนบริการตามฟีเจอร์เหล่านั้นนั้น คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทดสอบของเราได้ที่นี่ แต่ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่า AWeber ค่อนข้างแข็งแกร่งในประเด็นนี้

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน แพลตฟอร์ม AWeber มีการตรวจสอบสิทธิ์ DKIM พูดง่ายๆก็คือ DKIM เป็นระบบที่ใช้การเข้ารหัสเพื่อบอกเซิร์ฟเวอร์ของผู้ติดต่อที่รับอีเมลจากคุณ ว่าอีเมลนั้นมาจากที่ไหน พูดแบบจำเพาะเจาะจงหน่อยเลยก็คือ เป็นการยืนยันว่าอีเมลนั้นมาจากเว็บไซต์ของคุณจริงๆ หรืออย่างน้อยก็เป็นชื่อโดเมนเฉพาะของคุณจริงๆ โดยไม่ได้แอบอ้าง ซึ่งการมี DKIM จะเป็นการบอกเซิร์ฟเวอร์ของผู้ติดต่อว่าอีเมลของคุณมีโอกาสน้อยที่จะเป็นอันตรายหรือเป็นอีเมลสแปม

หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการตั้งค่า บริการ AWeber มีคำแนะนำที่ง่ายและรวดเร็วในการเริ่มต้นใช้งาน

ต่อไป คุณต้องการดูว่าจะจัดการกับสแปมอย่างไร ซึ่งบริการ AWeber มีจุดยืนที่มั่นคงมากเกี่ยวกับอีเมลสแปม: ทางแพลตฟอร์มไม่ชอบมัน ซึ่งมันดีต่อคุณ เพราะหากบริการอีเมลเช่น Gmail ตัดสินใจบล็อกแพลตฟอร์มอีเมลของคุณเนื่องจากส่งอีเมลสแปมมากเกินไป แบบนั้นจะส่งผลต่อทุกคนที่ใช้งานบริการนั้น

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณส่งอีเมลสแปมที่ไม่พึงประสงค์ออกไป? บัญชี AWeber ของคุณจะถูกยุติทันที แพลตฟอร์มอื่นอาจย้ายบัญชีไปที่ “อยู่ระหว่างการตรวจสอบ” หรือส่งคำเตือนให้คุณ แต่ AWeber จะไม่ทำการเตือน หากคุณถูกจับได้ว่าส่งสแปม บัญชีของคุณจะถูกยกเลิก ไม่มีคำถามใดๆทั้งนั้น ไม่มีความเมตตา และไม่มีการคืนเงิน ฟังแล้วอาจจะดูรุนแรง แต่ผมเข้าใจมากๆเลยแหละ ตราบใดที่คุณไม่ใช่นักส่งสแปม เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ

อีกสิ่งหนึ่งที่เราทำเพื่อทดสอบนโยบายอีเมลสแปมของแพลตฟอร์มคือการอัปโหลดที่อยู่อีเมลขยะไปยังรายชื่อผู้ติดต่อ เพื่อดูว่าจะอีเมลเหล่านั้นจะถูกกรองออกไปหรือไม่ บางคนอาจจะลองใช้อีเมลที่สร้างขึ้นแบบพิมมั่วๆ แต่ผมชอบใช้รายชื่อผู้ส่งอีเมลขยะอันเป็นที่รู้จัก โดยหาจากออนไลน์นี่แหละ

พูดง่ายๆ ตัวกรองของ AWeber ใช้งานได้ดี เมื่อผมลองอัปโหลดอีเมลเหล่านั้นแล้ว และไม่มีอีเมลไหนถูกเพิ่มลงในรายการของผมเลย เพราะอีเมลพวกนั้นถูกบล็อก

ในปัจจุบัน บางแพลตฟอร์มจะไม่อนุญาตให้คุณใช้แพลตฟอร์มของพวกเขาเพื่อส่งอีเมลที่มีลิงค์ affiliate (การตลาดแบบพันธมิตร-ที่ผู้แนะนำสินค้าหรือบริการจะได้รับค่าคอมมิชชั่น)แนบในอีเมล หรือแม้แต่การรับสมัครพันธมิตรสำหรับโปรแกรม affiliate ของคุณเอง ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามในการบล็อกสแปม แต่บางครั้งก็บล็อกธุรกิจที่ถูกกฎหมายด้วยเช่นกัน ก็ถือว่ามันเป็นการได้อย่างเสียอย่าง

AWeber อนุญาตให้ทำการตลาดแบบ affiliate ซึ่งตอนนี้ โปรแกรมการตลาดแบบ affiliate ที่คุณเข้าร่วมต้องดีกว่ามาตรฐาน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ AWeber และคุณต้องส่งลิงก์ affiliate เหล่านั้นไปยังผู้ที่สมัครลงทะเบียนเพื่อลิงค์เหล่านั้นจริงๆ ซึ่งการทำแบบนี้ยังคงได้รับอนุญาตให้ทำได้อยู่

สุดท้ายนี้ เรามาตรวจสอบตัวเลือกของที่อยู่ IP ส่วนตัวเฉพาะกัน โดยทั่วไปแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณสามารถซื้อได้ในบางครั้ง เพื่อให้อีเมลทั้งหมดของคุณมาจากที่อยู่เซิร์ฟเวอร์เดียวกันเสมอ ซึ่งปัญหาในการใช้ IP ร่วมกันกับนักการตลาดอีเมลรายอื่น คือถ้าคนอื่นๆถูกแบนทั้งเซิร์ฟเวอร์จาก Gmail อีเมลของคุณก็จะไม่ผ่านไปยังกล่องขาเข้าผู้รับเช่นกัน

การมี IP ส่วนตัวของคุณเองสามารถป้องกันการถูกแบนเพราะคนอื่นได้ แถมยังช่วยให้อีเมลของคุณดู “น่าเชื่อถือ” มากขึ้นจากมุมมองทางเทคนิค

น่าเสียดายที่ AWeber ไม่มีบริการให้ใช้ที่อยู่ IP ส่วนตัวเฉพาะเลย นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มันคงจะดีมากถ้ามีให้เลือกใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ติดต่อของคุณเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ

โดยทั่วไปแล้ว AWeber มีสิ่งที่จำเป็นในการทำให้อีเมลของคุณจาก A ไปหา B ถึง C และน่าจะไปยังกล่องจดหมายขาเข้าของผู้ติดต่อคุณ ซึ่งมันไม่ควรจะมีปัญหามากเกินไป แม้ว่าผมสังเกตเห็นปัญหาอย่างหนึ่งที่ผมพบ:

อีเมลต่างๆที่ส่งไปยัง Outlook.com จะถูกส่งตรงไปยังโฟลเดอร์จดหมายขยะทันที อย่างไรก็ตาม โปรดทราบไว้ว่า ผมได้ทดสอบบริการเหล่านี้มาระยะหนึ่งแล้ว และอาจเกี่ยวข้องกับอีเมลทุกฉบับที่ผมลองส่งไปเกี่ยวกับแมวของผมที่ชื่อ Cleocatra อีกหน่อยในอนาคต ผมอาจจะต้องเลือกหัวข้ออื่นแทน

AWeber มีการรายงานผลที่ค่อนข้างละเอียดดี แม้ใช้แผนฟรีก็ตาม

ตัวเลขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนักการตลาด ตัวเลขสถิติเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอีเมลและแลนดิ้งเพจคือวิธีที่คุณจะรู้ได้ว่าสิ่งใดใช้ได้ผลและสิ่งใดใช้ไม่ได้ผล เป็นวิธีที่คุณจะทราบได้ว่าผู้ติดต่อของคุณชอบหัวข้อที่ดูทะเล้นๆหรืออาจจะจะเป็นหัวข้อแนวสุภาพหน่อย เป็นวิธีที่คุณจะรู้ว่าพวกเขาชอบสีเขียวหรือสีน้ำเงินมากกว่ากัน

และนั่นมันเป็นวิธีที่ทำให้คุณรู้ว่าอะไรทำเงินได้มากกว่ากัน

โชคดีที่ AWeber มีบริการชุดรายงานขั้นสูงและรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับข้อมูลโดยรวม รวมถึงแนวโน้มของข้อมูลเหล่านั้น และอื่นๆอีกมากมาย คุณสามารถสร้างรายงานตามการเปิดอีเมล การคลิกลิงก์ และตำแหน่งที่อยู่ของผู้ติดต่อ นอกจากนี้บางบริการยังมีรายงานแนวโน้มสำหรับการเติบโตของสมาชิกรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน และอื่นๆ มีแม้กระทั่งรายงานเกี่ยวกับวิธีที่ผู้คนสมัครรับข้อมูลข่าวสารของคุณ

และนี่คือผลสถิติอย่างง่ายๆ ในการทำการตลาด ซึ่งการย้ายไปใช้แผนราคา Pro จะทำให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกในทางสถิติมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้คุณกำหนดวิธีขายไอเดีย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่างๆของคุณ

ผมพอใจกับฟีเจอร์นี้มากๆแม้ใน แผนใช้งานฟรีของ AWeber.

ระบบช่วยเหลือของ AWeber รวดเร็วและมีประโยชน์ (แต่อย่าใช้วิธีการโทรนะ)

ผมยินดีที่จะบอกว่าระบบการช่วยเหลือของ AWeber นั้นเป็นมิตร ให้ความช่วยเหลือได้ดี พูดแบบทั่วไปเลยก็คือ บริการจะให้สิ่งที่คุณต้องการภายในไม่กี่นาที โดยช่องทางการติดต่อหลักจะมีอยู่สามทางคือทางโทรศัพท์ ทางอีเมล และทางแชทสด และอย่างน้อยผมก็มีประสบการณ์ที่ดีกับทางแชทสดและทางอีเมล นอกจากนี้ ตัวเลือกการติดต่อทางอีเมลและทางแชทสดยังมีให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงในภาษาเวียดนามอีกด้วย (ใช้ Google แปลภาษา)

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการแก้ปัญหาด้วยตนเอง มีฐานความรู้มากมายพร้อมคำแนะนำ บทช่วยสอน และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเกือบทุกฟีเจอร์

หากคุณต้องการเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว ทางบริการมีสถาบันการศึกษา AWeber ให้คุณเสมอ ถึงแม้จะใช้คำว่า “สถาบันการศึกษา” สิ่งที่มีให้เป็นเพียงหลักสูตรวิดีโอสั้นๆ (แต่มีประโยชน์มาก) ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณในการตั้งค่าบัญชี และส่งอีเมลฉบับแรกออกไปเมื่อใดก็ได้ที่คุณต้องการ

ตอนนี้ เรามาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผมทดสอบทุกช่องทางต่างๆ ของระบบให้ความช่วยเหลือของ AWeber

ทางโทรศัพท์ อันที่จริงนี่คือรถไฟเหาะชัดๆ

ตามทฤษฎีแล้ว การให้ความช่วยเหลือทางโทรศัพท์ให้บริการตั้งแต่เวลา 8.00 น. ถึง 20.00 น. ตามเวลาตะวันออก (ET) ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น นี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทราบไว้ เพราะผมเสียเวลาทั้งหมดไปกับการรีวิวการติดต่อวิธีนี้ และพยายามโทรหาสองสามครั้งในช่วงสุดสัปดาห์

พอผมได้รับข้อความว่า “ทุกคู่สายเต็มในขณะนี้” ซึ่งนั่นหมายความว่าให้ผมรอหรือติดต่อพวกเขาด้วยวิธีอื่น ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าบริการหยุดทุกสุดสัปดาห์ ผมเลยรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่ามาก

พอผมลองโทรไปอีกครั้งในวันจันทร์ ผมก็ได้รับข้อความสุดเซ็งนั่นเหมือนเดิม ผมไม่สามารถติดต่อกับทีมช่วยเหลือทางโทรศัพท์ได้เลย เอาล่ะ ผมไม่ชอบคุยกับคนทางโทรศัพท์เหมือนกัน แต่นั่นเป็นงานของพวกเขาจริงๆ นี่เป็นข้อบกพร่องที่ค่อนข้างใหญ่เลยสำหรับประสบการณ์การให้ความช่วยเหลือ

ทางอีเมล

ผมได้ทำการส่งอีเมลผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ของ AWeber โดยถามไปว่านโยบายสำหรับการตลาดแบบ affiliate คืออะไร และผมสามารถเรียกใช้แคมเปญการตลาดแบบ affiliate ผ่าน AWeber ได้หรือไม่ ผมได้รับคำตอบภายใน 10 นาที โดยคำตอบบอกว่าใช่ ผมสามารถทำได้

10 นาทีเป็นระยะเวลาการตอบกลับที่ยอดเยี่ยมสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางอีเมล

ทางแชทสด

การให้ความช่วยเหลือทางแชทสดก็ค่อนข้างดีเช่นกัน แต่ก็มีปัญหาเล็กๆ อย่างหนึ่งคือ ผมไม่สามารถทำให้หน้าต่างแชทสดใช้งานได้บน Firefox และผมต้องเปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์ที่ใช้ Chromium (เช่น ทุกอย่างที่ทำงานบนโค้ดเดียวกับ Google Chrome)

ผมถามว่า มีการรองรับภาษา RTL เช่น ฮิบรูและอารบิกหรือไม่ ผมได้รับคำตอบเบื้องต้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที จากนั้นใช้เวลาอีกสองสามนาทีเพื่อให้ได้คำตอบที่แท้จริงสำหรับคำถามของผม แต่นั่นก็ยังเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมอยู่ดี

หมายเหตุ: ผมต้องขออภัยสำหรับเคอร์เซอร์เมาส์ในภาพถ่ายหน้าจอด้านล่างนี้ เกรงว่าผมไม่สามารถถ่ายภาพหน้าจอใหม่ได้แล้ว และภาพหน้าจอของผมมีการกำหนดค่าผิดพลาดอะไรบางอย่างไม่รู้อีกด้วย

การตั้งราคาของ AWeber สมเหตุสมผลมากๆ

การกำหนดแผนราคาต่างๆของ AWeber ไม่ได้ปอกลอกผู้ใช้งานแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำเงินได้จากการทำการตลาดของคุณจริงๆ ซึ่งการทำเงินก็เป็นเป้าหมายของคนส่วนใหญ่ และอย่างไรก็ตาม คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานกับ แผนใช้งานฟรีที่มีผู้สมัครรับอีเมลได้สูงสุด 500 คน.

หลังจากใช้งานแผนฟรีนั้น ก็ยังมีแผนราคา Pro ที่มีราคาดีมากๆ ฟีเจอร์เยี่ยม คุ้มค่าคุ้มราคา แม้ว่าแน่นอนว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าถ้าคุณจ่ายแบบรายเดือนไปเรื่อยๆ แผนราคาโปรเริ่มที่ $12.50 ต่อเดือน จ่ายเป็นรายปี จริงๆแล้วคุณควรลองใช้แผนบริการฟรีก่อนดีกว่า และถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ค่อยจ่ายเป็นแบบหนึ่งปีติดต่อกันแทน… หากคุณอยากประหยัดซัก ประมาณ 100 หรือ 130 บาท ต่อเดือน ใช้แล้วล่ะ ความแตกต่างระหว่างราคารายเดือนและรายปีนั้นไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็สามารถช่วยได้หากคุณมีงบประมาณจำกัด

AWeber ถือว่ามีราคาถูกกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆหลายราย

ตอนนี้ หากคุณต้องการใช้ AWeber แบบจริงๆจังๆ การตลาดขั้นสูง แนะนำให้ลองพิจารณาแผนโปรครับ ซึ่งเริ่มที่ราคา $12.50 ต่อเดือน

นโยบายการคืนเงินนั้นค่อนข้าง…ซับซ้อน การยกเลิกบัญชีของคุณทำได้ง่ายพอสมควร เรามีคำแนะนำทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนั้น การขอคืนเงินเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากไม่มีนโยบายการคืนเงินที่เฉพาะเจาะจง คุณสามารถขอเงินคืนได้เสมอ แต่การที่คุณได้รับเงินคืน (และได้เงินคืนเท่าไร) จะพิจารณาเป็นกรณีแตกต่างกันไป